พิษสุนัขบ้า (Rabies)

เวลาโดนหมากัด แมวกัด แมวข่วน หลายคนนอกจากจะเจ็บตัวแล้ว สิ่งที่กลัวมากกว่าคือการรักษาที่ตามมา ถ้าใครเคยโดนกัดแล้วคงจะทราบดีค่ะว่า พอไป รพ. ที ทำแผล ฉีดวัคซีน หรือบางคนโดนฉีดยารอบแผลด้วย(เจ็บยิ่งกว่าตอนถูกกัดอีกใช่ไหมคะ 😅)

วันนี้ Unity พามาดูกันค่ะว่า เวลาที่เราโดนสุนัข/แมว กัด ข่วน เราต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง

  1. วัคซีนพิษสุนัขบ้า (Rabies Vaccine)
    วัคซีนพิษสุนัขบ้า เป็นวัคซีนหลักที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจมาฉีดวัคซีนหลังโดนสุนัขกัด แมวข่วน เพราะกลัวเป็นโรคพิษสุนัขบ้านั่นเองค่ะ

โดยการฉีดวัคซีน จะมีทั้งการฉีดทางกล้ามเนื้อ(Intramuscular) และการฉีดใต้ผิวหนัง(Intradermal)

  1. การฉีดทางกล้ามเนื้อ(IM)โดยฉีดทั้งหมด 5 เข็ม โดยฉีดครั้งละ 1 เข็ม ในวันที่ 0,3,7,14 และ 28
  2. การฉีดใต้ผิวหนัง(ID) จะฉีดครั้งละ 2 จุด ในวันที่ 0,3,7 และ 28
    ซึ่งภายในระยะเวลา 6 เดือนหากถูกสัตว์กัดซ้ำต้องฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าทางชั้นกล้ามเนื้อ(IM) 1 เข็มหรือทางชั้นใต้ผิวหนัง(ID) 1 จุด ในวันที่ 0

แต่หากเลย 6 เดือนแล้วต้องฉีดวัคซีน ดังนี้ค่ะ

  1. ฉีดทางกล้ามเนื้อ (IM) ครั้งละ 1 เข็ม วันที่ 0 กับ 3
  2. ฉีดใต้ผิวหนัง (ID)
  • ฉีด 4 จุด ในวันที่ 0
  • ฉีดครั้งละ 1 จุด ในวันที่ 0 กับ 3
  1. วัคซีนบาดทะยัก (Tetanus Toxoid)
    วัคซีนบาดทะยัก ฉีดเพื่อป้องกันเชื้อบาดทะยัก ซึ่งเชื้อบาดทะยักเป็นสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Tetani ซึ่งจะอยู่ตามดิน ฝุ่น มูลสัตว์ เมื่อสปอร์เหล่านี้เข้าไปที่แผล จะเป็นสารพิษต่อเส้นประสาทนั้นค่ะ

การฉีดวัคซีนบาดทะยัก เป็นวัคซีนขั้นพื้นฐานที่เด็กจะได้รับ โดยต้องฉีด 3 เข็ม หลังจากเข็มที่ 3 แล้วให้ฉีดเข็มกระตุ้นทุก 10 ปี หากนานเกิน 10 ปีไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้นก็ต้องเริ่มการฉีดวัคซีนใหม่ค่ะ

  1. การฉีดวัคซีนรอบแผล RIG
    วัคซีนที่ฉีดรอบแผลมีทั้งชนิด HRIG (Human Derived RIG) และ ERIG (Equine Derived RIG)
    RIG(Rabies Immunoglobulin) มีข้อบ่งชี้ในการให้ ดังนี้
  2. บาดแผลมีเลือดออกชัดเจน
  3. บาดแผลอยู่บริเวณศีรษะ คอ มือ
  4. ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือภูมิคุ้มกันต่ำ
  5. ถูกกัดในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า
  6. ผู้ป่วยถูกค้างคาวกัด หรือสัมผัสโรคจากค้างคาว
    กรณีที่ถูกสัตว์กัดซ้ำหลังได้รับวัคซีนพิษสุนัขบ้าครบแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ RIG ค่ะ

สนใจบริการ

#บริการเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายให้อาหาร #บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel 📱: 063-526-5593
E-mail 📩: unitynursingcare@gmail.com
Website 🌐 : www.unitynursingcare.com

ภาวะหายใจเกิน (Hyperventilation)

ใครเคยเจอคนที่จู่ๆ มีอาการหายใจเร็ว เกร็ง มือจีบบ้างคะ ทราบกันไหมคะว่า อาการหายใจเร็ว เกร็ง มือจีบ คืออาการของภาวะอะไรค่ะ

การหายใจเร็ว มือจีบ เป็นอาการของภาวะหายใจเกิน(Hyperventilation) หรือการระบายอากาศออกมากกว่าปกติ หรือมีการหายใจเร็วนั่นเองค่ะ
การระบายอากาศมาก หรือ การหายใจออกมาก ทำให้ร่างกายของเราเกิดการระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ออกจากร่างกายมาก ทำให้ร่างกายของเรามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดลง ทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว จึงมีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ลดลง และยังทำให้เสียสมดุลความเป็นกรดด่างของเลือด จึงทำให้เกิดระดับแคลเซียมในเลือดต่ำตามมาค่ะทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการเกร็ง มือจีบออกมาให้เห็นค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะหายใจเกิน เช่น ความเครียด รู้สึกวิตกกังวล หรือรู้สึกกดดัน เป็นต้นค่ะ

ซึ่งวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับภาวะหายใจเกิน

  1. พยายามแจ้งผู้ป่วยให้หายใจช้าลง
  2. หากไม่สามารถหายใจช้าลงได้ ให้หาถุงกระดาษ มาให้ผู้ป่วยหายใจในถุงโดยครอบทั้งปากและจมูก ซึ่งการหายใจแบบนี้จะทำให้เวลาผู้ป่วยหายใจออก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะคั่งอยู่ในถุง แล้วเมื่อผู้ป่วยหายใจเข้าจะได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับเข้าไปในร่างกายเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด ซึ่งจะลดความเป็นด่างในเลือด ทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดเข้าสู้ระดับปกติ จึงหยุดอาการเกร็ง มือจีบได้นั่นเองค่ะ

การปฐมพยาบาลโดยการให้ผู้ป่วยหายใจในถุงเป็นวิธีแก้เมื่อเกิดภาวะหายใจเกินขึ้นมาแล้ว แต่หากผู้ป่วยมีอาการแบบนี้บ่อย นั่นแสดงถึงความเครียด ความวิตกกังวลที่ผู้ป่วยมีนั่นเอง ดังนั้นผู้ที่มีภาวะหายใจเกินบ่อย ควรหาวิธีบรรเทาความเครียดเพื่อให้สามารถรับมือกับความเครียด ความกังวลได้อย่างเหมาะสม หากไม่สามารถหาวิธีบรรเทาความเครียดได้ ผู้ป่วยควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสมต่อไปค่ะ

เที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19

สงกรานต์ปีนี้ ใครหลายคนคงเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ไปเที่ยวพักผ่อน ทำบุญ หรือบางส่วนอาจจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

แต่ไม่ว่าจะไปไหน ในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่นี้ ทุกคนยังต้องระวังตัว และดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองกันด้วยนะคะ

วันนี้ Unity Nursing Care มี ‘5 วิธี เที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19’ มาฝากกันค่า 🤗

  1. สวมหน้ากากอนามัย
  2. หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่คนแออัด
  3. ทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์หรือล้างมือบ่อยๆ
  4. ลดการใช้เงินสดในการใช้จ่าย เช่น อาจจ่ายเงินด้วยการโอนหรือแสกนจ่ายแทนค่ะ
  5. ตรวจ ATK ก่อนรวมตัวกับญาติพี่น้องและตรวจ ATK หลังจากกลับจากการเที่ยว

นี่เป็นเพียง 5 วิธีการง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถปฏิบัติกันได้ เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเราเอง คนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานค่ะ 😊

สนใจบริการ

#บริการเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายให้อาหาร #บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel 📱: 063-526-5593
E-mail 📩: unitynursingcare@gmail.com
Website 🌐 : www.unitynursingcare.com

วันอนามัยโลก (World Health Day)

องค์การอนามัยโลก(World Health Organization : WHO) จัดตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 7 เมษายน 1948 มีการประชุมครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้น วันที่ 7 เมษายน ของทุกปีจึงเป็น ‘วันอนามัยโลก(World Health Day)’

โดยองค์การอนามัยโลก(WHO) ทำหน้าที่ในการวางมาตรการและควบคุมโรคระบาดระหว่างประเทศ และนอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายในการทำให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี โดยองค์การอนามัยโลกมีบทบาทในการดำเนินกิจกรรมทางด้านอนามัยแทนสำนักงานสาธารณสุขระหว่างประเทศและองค์การอนามัยแห่งสันนิบาตชาติ

คำขวัญขององค์การอนามัยโลก ประจำปี 2022 คือ “Our planet, our health” หรือ “โลกของเรา สุขภาพของเรา” ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้มองเห็นว่าท่ามกลางภาวะที่เกิดโรคระบาดและปัญหาทางด้านมลพิษ ทำให้เกิดโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น มะเร็ง ภูมิแพ้ เป็นต้น

องค์การอนามัยโลกจึงตระหนักถึงความเร่งด่วนที่ต้องทำให้ประชากรและโลกของเรามีสุขภาพที่ดี เพื่อสร้างสังคมที่สุขภาพดี โดยที่ผ่านมาในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากปัญหาด้านสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ รวมถึงปัญหาทางด้านมลพิษซึ่งเป็นปัญหาทางสภาพแวดล้อมที่ใหญ่สุดที่ประชากรโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ และนี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า วิกฤตด้านสภาพอากาศเป็นวิกฤตทางด้านสุขภาพเช่นกัน

สนใจบริการ

#บริการเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายให้อาหาร #บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel 📱: 063-526-5593
E-mail 📩: unitynursingcare@gmail.com
Website 🌐 : www.unitynursingcare.com

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร คือ ภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักมีการโป่งพอง และอาจมีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระเนื่องจากอุจจาระที่มีการเสียดสีกับตัวหลอดเลือดที่โป่งพองบริเวณทวารหนักทำให้เกิดเลือดออกได้ หรือในผู้ป่วยบางรายที่เป็นริดสีดวงทวารเยอะ อาจมีหัวริดสีดวงหรือ ติ่ง ยื่นออกมาจากรูทวารให้เห็นได้เลยค่ะ

โดยริดสีดวงทวารจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ใหญ่ๆ คือ

  1. ริดสีดวงทวารแบบภายใน (Internal Hemorrhoids) จะแบ่งความรุนแรงของโรคเป็น 4 ระยะ
    ⁃ ระยะที่ 1 : หลอดเลือดบริเวณทวารหนักมีการโป่งพองในรูทวาร
    ⁃ ระยะที่ 2 : มีติ่งโผล่ออกมาจากรูทวารขณะถ่ายอุจจาระและสามารถหดกลับเข้าไปเองได้
    ⁃ ระยะที่ 3 : ติ่งโผล่ออกมาจากรูทวาร ไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้นิ้วช่วยดันกลับเข้าไป
    ⁃ ระยะที่ 4 : ติ่งโผล่ออกมาจากรูทวาร ไม่สามารถใช้นิ้วดันกลับเข้าไปได้
  2. ริดสีดวงทวารแบบภายนอก (External Hemorrhoids) จะมีลักษณะเป็นก้อนนูนที่ปากทวารหนัก(Anal margin)

พฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวาร?
⁃ รับประทานผักน้อย ทำให้มีกากใยในระบบทางเดินอาหารน้อย
⁃ ดื่มน้ำน้อย ทำให้อุจจาระแข็งขับออกยาก
⁃ นั่งขับถ่ายอุจจาระนาน

เมื่อท่านมีอาการบ่งชี้ว่าอาจจะเป็นริดสีดวงทวารควรมีการปรับพฤติกรรมสุขภาพเบื้องต้น เช่น
⁃ ทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร
⁃ ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้อุจจาระนิ่ม สามารถขับออกได้ง่าย
⁃ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้นั่งขับถ่ายอุจจาระนาน เช่น การอ่านหนังสือ หรือการเล่นโทรศัพท์ขณะถ่ายอุจจาระ

หากปรับพฤติกรรมสุขภาพแล้วยังมีปัญหาในเรื่องของริดสีดวงทวารแนะนำว่าท่านควรไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและทำการรักษาค่ะ เพราะการรักษาริดสีดวงทวารในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการรับประทานยา หรือเหน็บยา แต่หากในระยะหลังๆ แล้วอาจต้องมีการรัดหัวริดสีดวงทวารให้ฝ่อ(Rubber Band Ligation) การใช้เลเซอร์จี้หัวริดสีดวงหรืออาจต้องทำการผ่าตัดออก เป็นต้นค่ะ

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงทวาร จะมีความรู้สึกเจ็บบริเวณทวาร สามารถบรรเทาความเจ็บได้ด้วยการแช่ก้นเองที่บ้าน โดยการแช่ก้นนั้น ให้แช่ก่อนและหลังขับถ่ายอุจจาระ นั่งแช่ก้นของเราลงในน้ำอุ่น นานประมาณ 15-30 นาที ค่ะ

ริดสีดวงทวารเป็นสิ่งที่เป็นแล้วเมื่อรักษาหาย สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะ หากท่านยังมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารได้อยู่ ทางที่ดีเราควรดูแลสุขภาพลำไส้ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารที่มีกากใยเพิ่ม ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการนั่งขับถ่ายอุจจาระนาน เพื่อป้องกันการเกิดริดสีดวงทวารกันดีกว่าค่ะ 😊

สนใจบริการ

#บริการเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน #บริการเปลี่ยนสายให้อาหาร #บริการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel 📱: 063-526-5593
E-mail 📩: unitynursingcare@gmail.com
Website 🌐 : www.unitynursingcare.com