อาการของโควิด-19

เชื่อว่าจากการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 ทำให้ใครหลายคนคิดว่า เอ่ ตอนนี้ฉันติดหรือยังนะ?

เพราะในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง การติดเชื้อโคโรน่าไวรัส อาจไม่แสดงอาการ แต่สามารถเป็นพาหะ พาเชื้อไปติดยังผู้อื่นได้ และสิ่งที่อันตรายคือ การนำเชื้อไปติดกับผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุร่างกายอ่อนแอกว่าทำให้การติดเชื้อโคโรน่าไวรัส อาจอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

เรามาตรวจสอบอาการของโควิด-19 เพื่อประเมินตนเองกันค่ะ

1. มีไข้ ปวดศีรษะ

2. ปวดเมื่อยเนื้อตัว

3. เจ็บคอ

4. ตาแดง

5. ท้องเสีย

6. สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นหรือรับรส

7. มีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง หรือนิ้วมือ นิ้วเท้าเปลี่ยนสี

ในผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก สูญเสียความสารถในการพูดหรือเคลื่อนไหวได้

ดังนั้น หากท่านมีอาการดังกล่าวข้างต้น หรือมีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ท่านต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจรักษา เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ค่ะ

สนใจบริการ
#พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

หมายเหตุ : ให้บริการในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ไข้ไทฟอยด์ (Typhoid) หรือ ไข้รากสาดน้อย

ไทฟอยด์เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ติดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยหลังจากได้รับเชื้อผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร มีไข้สูง และมีท้องร่วง ในผู้ป่วยบางรายอาจมีผื่นร่วมได้ด้วย

มาดูกันค่ะว่าวิธีป้องกันไข้ไทฟอยด์สามารถทำอย่างไรได้บ้าง

  1. ดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำขวด น้ำต้มสุก
  2. รับประทานอาหารสุก ปรุงเสร็จใหม่ๆ
  3. ล้างผัก ผลไม้สด ให้สะอาดก่อนรับประทาน
  4. ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
  5. แยกอุปกรณ์-ภาชนะสำหรับใช้กับของสด และของปรุงสุกแล้ว เช่น มีด และเขียง

นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นยังมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้ไทฟอยด์ ซึ่ง วัคซีนนั้นทำมาจากเชื้อไทฟอยด์ที่ตายแล้ว ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ทำให้เกิดโรคไข้ไทฟอยด์ในผู้ที่ได้รับวัคซีน เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ และเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไปค่ะ

ปัจจุบันโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง มีการพบผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัด ทุกคนต้องป้องกันตนเองเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนะคะ

วันนี้เรามาดู 6 วิธีป้องกันเชื้อโคโรน่าไวรัส ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้กันค่ะ

  1. ล้างมื้อนานอย่างน้อย 20 วินาที
  2. ล้างมื้อด้วยน้ำและสบู่ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่จะช่วยให้เชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อยู่บนมือเราออกไป ทำให้มือเราสะอาดนั่นเอง
  3. สวมใส่หน้ากาก ได้ทั้งหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยเลยค่ะ แต่ที่สำคัญต้องไม่ใส่ซ้ำนะคะ ถ้าเป็นหน้ากากผ้าต้องหมั่นซักทำความสะอาดทุกวันด้วยค่ะ
  4. หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัด เช่น ตลาดสด โรงภาพยนตร์ หรือหากหลีกเลี่ยงการไปไม่ได้ก็ต้องสวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะด้วยค่ะ
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากหากมีเชื้อโรคติดอยู่ที่มือ วัตถุต่างๆ แล้วเราใช้มือไปจับ เชื้อโรคนั้นติดมาที่มือเรา หากเรานำมือมาสัมผัสบริเวณหน้า ทำให้เราสามารถรับเชื้อโรคเข้าไปในร่างกายได้
  6. ล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ หากต้องเดินทาง หรืออยู่นอกบ้าน การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ สามารถทำได้ยาก เราจึงแนะนำให้พกแอลกอฮอร์ล้างมือ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่มือ ป้องกันการติดเชื้อสู่ตนเองค่ะ

นี่เป็นตัวอย่าง 6 วิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงเท่านี้ เราก็ช่วยกันมีส่วนร่วมในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ได้แล้วค่ะ

สนใจบริการ

พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

หมายเหตุ : ให้บริการในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

วิธีป้องกันการติดโควิด-19


ปัจจุบันโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง มีการพบผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัด ทุกคนต้องป้องกันตนเองเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนะคะ

วันนี้เรามาดู 6 วิธีป้องกันเชื้อโคโรน่าไวรัส ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้กันค่ะ

1. ล้างมื้อนานอย่างน้อย 20 วินาที

2. ล้างมื้อด้วยน้ำและสบู่ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่จะช่วยให้เชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อยู่บนมือเราออกไป ทำให้มือเราสะอาดนั่นเอง

3. สวมใส่หน้ากาก ได้ทั้งหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยเลยค่ะ แต่ที่สำคัญต้องไม่ใส่ซ้ำนะคะ ถ้าเป็นหน้ากากผ้าต้องหมั่นซักทำความสะอาดทุกวันด้วยค่ะ

4. หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัด เช่น ตลาดสด โรงภาพยนตร์ หรือหากหลีกเลี่ยงการไปไม่ได้ก็ต้องสวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะด้วยค่ะ

5. หลีกเลี่ยงการสัมผัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากหากมีเชื้อโรคติดอยู่ที่มือ วัตถุต่างๆ แล้วเราใช้มือไปจับ เชื้อโรคนั้นติดมาที่มือเรา หากเรานำมือมาสัมผัสบริเวณหน้า ทำให้เราสามารถรับเชื้อโรคเข้าไปในร่างกายได้

6. ล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ หากต้องเดินทาง หรืออยู่นอกบ้าน การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ สามารถทำได้ยาก เราจึงแนะนำให้พกแอลกอฮอร์ล้างมือ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่มือ ป้องกันการติดเชื้อสู่ตนเองค่ะ

นี่เป็นตัวอย่าง 6 วิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงเท่านี้ เราก็ช่วยกันมีส่วนร่วมในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ได้แล้วค่ะ

สนใจบริการ
#พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน#บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

หมายเหตุ : ให้บริการในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee osteoarthritis)

โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee osteoarthritis)

เกิดจากการที่กระดูกอ่อนผิวข้อ เกิดการสึกกร่อนตามใช้งาน และนำ้ไขข้อลดลง ทำให้เกิดอาการปวดตามมา

เรามาดูกันค่ะ ว่าอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม มีอะไรบ้าง

  1. อาการปวด (Pain) มักมีอาการเมื่อมีการใช้งานหรือลงน้ำหนักข้อ อาการจะทุเลาลงเมื่อมีการนั่งพักหรือหยุดใช้งาน
  2. ข้อฝืด (Stiffness) มักเป็นตอนเช้าหลังตื่นนอน จะเกิดขึ้นชั่วคราวในช่วงแรกของการเคลื่อนไหว
  3. ข้อบวม ผิดรูป (Swelling/Deformity) เกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย
  4. มีเสียงดังกรอบแกรบ (Crepitus) ในข้อเข่าเมื่อมีการขยับหรือเคลื่อนไหวข้อเข่า

หากใครมีอาการที่กล่าวไปข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้นได้ค่ะ

สนใจบริการ #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้านติดต่อสอบถามถามเพิ่มเติมได้ที่Line :@unitynursingcare Tel :063-526-5593 E-mail : unitynursingcare@gmail.com www.unitynursingcare.com หมายเหตุ : ให้บริการในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

หลายๆ บ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่กับเราด้วย หรือแม้แต่กระทั่งตัวเราเองก็ตาม เมื่ออายุเยอะขึ้น ยิ่งต้องระวังเรื่องการพลัดตกหกล้มมากขึ้นเพราะในวัยสูงอายุนั้นมักจะมีภาวะกระดูกพรุน ซึ่งเกิดจากการเสื่อมของกระดูก กระดูกบางลง จากการสูญเสียแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกทำให้กระดูกแตกและหักง่ายค่ะ นอกจากนี้การฟื้นตัวหลังจากที่มีการแตก/หักของกระดูกในวัยสูงอายุ นั้นยากและใช้เวลานานกว่าคนในวัยหนุ่มสาวผู้สูงอายุบางคน เมื่อมีภาวะกระดูกหัก ไม่สามารถลุกเดิน เปลี่ยนอิริยาบทได้คล่องแล้ว อาจมีการเกิดแผลกดทับ(pressure sore) ตามมา เนื่องจากการอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานนั่นเองค่ะดังนั้น การป้องกันไว้ย่อมดีกว่า การเป็นแล้วมาหาทางรักษาภายหลังใช่ไหมคะเรามาดูกันค่ะว่า
การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง
1. วัสดุปูพื้นบ้านไม่ลื่น ไม่ต่างระดับ
2. หลีกเลี่ยงการใช้พรมหรือเสื่อ
3. เก็บสายไฟให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
4. ดูแลให้แสงสว่างเพียงพอ
5. เลือกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านให้เหมาะกับสรีระและการเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ยังควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกและข้อและทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อบำรุงกระดูกอีกด้วยค่ะสนใจบริการ

#พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล#ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน#บริการทำแผลที่บ้าน#บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้านติดต่อสอบถามถามเพิ่มเติมได้ที่Line : @unitynursingcareTel ????: 063-526-5593E-mail ????: unitynursingcare@gmail.comwww.unitynursingcare.comหมายเหตุ : ให้บริการในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล