โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

วันนี้ Unity Nursing Care พาทุกคนมารู้จักกับโรคหลอดเลือดสมอง หรือสโตรค (stroke) นั่นเองค่ะ

โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 แบบ ได้แก่

  1. โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตัน (ischemic stroke) ซึ่งอาจเกิดได้จากคราบพลัคซ์(plaque) หรือไขมัน ที่สะสมในหลอดเลือดที่มีปริมาณมากขึ้น หรือจากการมีลิ่มเลือดหรือเกร็ดเลือดเข้าไปอุดกั้นหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง
  2. โรคหลอดเลือดสมองแตก (hemorrhagic stroke) ซึ่งเกิดจากแรงดันเลือดที่สูง เช่น ภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุมหรือรักษา

เรามาดูอาการของโรคหลอดเลือด เพื่อสามารถประเมินและพาผู้ป่วยไปรับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีกันค่ะ

การประเมินโรคหลอดเหลือดสมอง เราใช้หลัก F-A-S-T ในการประเมินค่ะ ซึ่งได้แก่

F – Face (ใบหน้า) ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมองจะมีอาการแสดงทางใบหน้า มุมปากตกข้างหนึ่ง หากให้ยิ้มจะยิ้มได้ซีกเดียว แต่มุมปากอีกข้างจะตกค่ะ

A -Arm (แขน) ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง จะมีอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง โดยหากให้ยกแขนในระดับที่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง จะยกได้เพียงข้างเดียว หรืออาจสังเกตได้จากการติดกระดุมเสื้อ ผู้ที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมองจะใช้มือเพียงข้างเดียวในการติดกระดุม เพราะแขนอีกข้างอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น

S – Speech (คำพูด) ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง จะพูดไม่ชัดลักษณะเหมือนลิ้นคับปาก

T – Time (ระยะเวลา) หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการข้างต้น ให้รีบพามาโรงพยาบาลในระยะเวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที หรือหากจะให้ดีต้องภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อตรวจรับการวินิจฉัย และให้ยาได้ทันค่ะ

โรคหลอดเลือดสมอง หากท่านสังเกตเห็นอาการในระยะเริ่มต้นและพาผู้ป่วยมารับการรักษาได้ทัน ผู้ป่วยจะสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามเดิมค่ะ

สนใจบริการ

เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

โรคลมแดด หรือโรคฮีท สโตรค(Heat Stroke)

จากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ (ถึงแม้หลายๆ คนจะคิดว่า เอ้ ประเทศเราก็เหมือนจะร้อนทุกฤดูอยู่แล้วนะ ก็ตามทีค่ะ ????) เมื่ออากาศร้อน สิ่งที่มักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ คือ การเป็นโรคลมแดดนั่นเองค่ะ

การเป็นโรคลมแดด หรือที่เรียกว่า Heat Stroke (ฮีทสโตรก) เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทัน

โดยอาการของโรคลมแดด มีดังนี ค่ะ

  • อาการตะคริวแดด (Heat Cramp)
  • อาการเพลียจากแดด (Heat Exhuastion) เช่น ผิวหนังแดงร้อน อ่อนเพลีย หน้ามืด อาเจียน เวียนศีรษะ ????
  • หากมีการวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก อาจวัดได้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส ค่ะ ????

โดยการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นในผู้ที่เป็นลมแดดนั้น ท่านสามารถทำได้ดังนี้

  1. พาผู้ป่วยเข้ามาพักในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  2. คลายเสื้อผ้าให้หลวม ไม่รัดแน่น
  3. ใช้น้ำอุณหภูมิห้องช่วยเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อน
  4. เมื่อผู้ป่วยรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำเย็นเพื่อระบายความร้อนในร่างกายและป้องกันภาวะขาดน้ำ

เมื่อทราบแบบนี้แล้วเราควรป้องกันตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นลมแดด ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้ ค่ะ

  1. ใช้อุปกรณ์ป้องกันแดด เช่น หมวก ร่ม ????
  2. ดื่มน้ำเพื่อป้องกันการขาดน้ำและลดอุณหภูมิของร่างกาย ????
  3. หลีกเลี่ยงการออกไปกลางแจ้งเมื่อแดดร้อนจัด
  4. หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่หนา สีเข้ม

การป้องกันตนเองจากการเป็นลมแดดนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะต้องทำในสภาพอากาศที่ร้อนนะคะ เพราะการเป็นลมแดดไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย มีไข้ แต่หากอุณหภูมิร่างกายสูงมากอาจทำให้หมดสติและถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ ☠️


สนใจบริการ
เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

ทำไมเวลาไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ต้องถามชื่อบ่อยๆ ด้วยนะ?

จากการพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาลของ Unity Nursing Care เรามีเรื่องน่าสนใจและเป็นประโยชน์มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ

ก่อนอื่นต้องถามว่า คุณเคยไหมคะ เวลาไปโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ต้องถามกันตลอดว่า คนไข้ ชื่อ-นามสกุลอะไรคะ?
บางที บอกไปแล้ว เจ้าหน้าที่คนใหม่มา หรือไปติดต่ออีกจุดบริการหนึ่งก็ถามใหม่
เพราะอะไรน้า? เขาจำชื่อเราไม่ได้หรอ ?

จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ การถามชื่อ-นามสกุล ของผู้ป่วยก่อนทางโรงพยาบาลจะให้บริการทุกครั้ง นั่นเป็นเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเองค่ะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการให้บริการ เช่น

  • ผู้รับที่อาจจะมีชื่อคล้ายกัน
  • ผู้รับบริการที่มีชื่อเหมือนกัน แต่นามสกุลต่างกัน
  • หรือในบางกรณี หากชื่อ-นามสกุล ตรงกัน (เกิดขึ้นได้น้อยมาก) อาจต้องมีการถามวันเดือนปีเกิด ดูเลขทะเบียนผู้ป่วย เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนค่ะ
  • และในผู้สูงอายุ บางทีอาจฟังชื่อเวลาเรียกเพื่อให้บริการไม่ถนัด อาจฟังผิด คิดว่าเป็นชื่อตนเองได้ค่ะ

การระบุตัวตนที่ถูกต้องนั้น เป็นประโยชน์โดยตรงกับผู้รับบริการ เพราะเป็นการป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการต่างๆ เช่น การฉีดยา เจาะเลือด หรือแม้แต่การให้ยา ค่ะ

(ขอบคุณภาพประกอบ จากโรงพยาบาลศิริราช)

สนใจบริการ
เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

พ่อ แม่ เลือดกรุ๊ปนี้ ลูกจะเลือดกรุ๊ปอะไรได้บ้างน้า ????

วันนี้ Unity Nursing Care มาชวนคุย เรื่อง กรุ๊ปเลือดกันค่ะ ????
ก่อนอื่นเรามาทราบกันก่อนว่าระบบแบ่งกรุ๊ปเลือดนั้น มีแบบ ‘ A B O’ และ ‘Rh’
ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เลือดจะเป็น Rh + (Rh positive) และชาวต่างชาติทางฝั่งยุโรป มักจะมีเลือด Rh – (Rh negative) ค่า

ซึ่งในเลือด ABO ถูกกำหนดโดยสาร Antigen ที่อยู่บนเม็ดเลือด โดยแบ่งเป็น Antigen A และ Antigen B ค่ะ ถ้าเลือดของเราไม่มีสาร Antigen ชนิดใด ก็จะสร้าง Antibody ต่อเลือดชนิดนั้น
ทำให้ การให้เลือด ต้องระวังและรอบคอบมากค่ะ หากให้เลือดผิดกรุ๊ป จะทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ และอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ ☠️

เรามาดูกันค่ะว่า แล้วถ้าเราเลือดกรุ๊ปนี้ แล้วมีลูก ลูกจะสามารถมีเลือดกรุ๊ปอะไรได้บ้าง

???? หากพ่อและแม่เลือดกรุ๊ปเดียวกัน

  1. พ่อและแม่เลือดกรุ๊ป A ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ O
  2. พ่อและแม่เลือดกรุ๊ป B ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป B หรือ O
  3. พ่อและแม่เลือดกรุ๊ป AB ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ B หรือ AB
  4. พ่อและแม่เลือดกรุ๊ป O ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป O

???? หากพ่อและแม่เลือดคนละกรุ๊ป

  1. พ่อหรือแม่ A กับ O ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ O
  2. พ่อหรือแม่ A กับ B ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ B หรือ O
  3. พ่อหรือแม่ A กับ AB ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ B หรือ AB
  4. พ่อหรือแม่ B กับ O ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป B หรือ O
  5. พ่อหรือแม่ B กับ AB ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ B หรือ AB
  6. พ่อหรือแม่ AB กับ O ลูกจะออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป A หรือ B

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่วางแผนจะมีลูก ลองมาลุ้นกับคู่รักของคุณกันดูว่า ถ้ามีลูกแล้ว ลูกจะออกมากรุ๊ปเลือดอะไรค่า ????

สนใจบริการ

เฝ้าไข้ที่บ้านและโรงพยาบาล #พาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล #ดูแลเจาะเลือดที่บ้าน #บริการทำแผลที่บ้าน #บริการวางแผนสอนดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่บ้าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com

กินยาคุมอย่างไรให้ไม่ท้อง?

Happy Valentine’s Day นะคะทุกคน

วันนี้ Unity Nursing Care ชวนทุกคนมาพูดคุยเกี่ยวกับการคุมกำเนิดกันค่ะ สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แต่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร การคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากนะคะ

การคุมกำเนิดมีหลายวิธีด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การฉีด/การฝังยาคุมกำเนิด แผ่นแปะผิวหนังเพื่อคุมกำเนิด การใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด แต่วิธีที่นอกจากจะคุมกำเนิดได้แล้วยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้นั่นก็คือ การใช้ถุงยางอนามัยค่ะ

วันนี้เราชวนมาดูวิธีการกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องกันค่ะ
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า ยาเม็ดรับประทานเพื่อการคุมกำเนิดนั้น มีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ดค่ะ โดยการทานต้องเริ่มทานในช่วงวันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน ทานตามลูกศรบนแผงยา

⁃ ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด ต้องเว้น 7 วันก่อนเริ่มทานแผงถัดไป

⁃ ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด ไม่ต้องเว้น เมื่อทานหมดแผงแล้ว สามารถเริ่มทานแผงถัดไปได้เลย ( 7 เม็ดที่เพิ่มมาจากวันที่ 21 เป็นเม็ดแป้ง เพื่อป้องกันการลืมทานยาค่ะ)

พูดมาถึงตรงนี้หลายคนคงบอกว่า เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดลืมทานยาขึ้นมาต้องทำอย่างไรคะ บางคนลืมแล้วก็ปล่อยผ่านไป อีกวันค่อยทานใหม่ แต่วิธีการที่ถูกต้อง เมื่อลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ต้องปฏิบัติดังนี้ค่ะ

⁃ กรณีลืมทานยา 1 วัน วันถัดไปให้ทานยา 2 เม็ด หลังจากนั้นทานวันละ 1 เม็ดตามเดิม

⁃ กรณีลืมทานยา 2 วัน วันถัดไปให้ทานยา 2 เม็ด และวันต่อมาทานยาอีก 2 เม็ด หลังจากนั้นทานวันละ 1 เม็ดตามเดิม

แต่หากลืมทานมากกว่า 3 วันขึ้นไป ท่านควรเริ่มการทานยาเม็ดคุมกำเนิดใหม่ โดยรอรอบประจำเดือน และในระหว่างนี้ ท่านควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น การสวมถุงยางอนามัยค่ะ

บางคนอาจมีคำถามว่า แล้วกรณีที่เรามีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ไม่ได้ใช้ถุงยาง ไม่ได้คุมกำเนิดมาก่อน สามารถทำอย่างไรได้บ้าง

คำตอบคือ ท่านสามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้ โดยการทานยาคุมฉุกเฉินนั้นแบ่งได้ 2 วิธี

  1. ทานทั้ง 2 เม็ดพร้อมกันหลังจากมีเพศสัมพันธ์
  2. ทานยาเม็ดแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที และทานยาเม็ดที่ 2 ห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง
    แต่หากไม่สามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้ทันที ท่านต้องทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ

แต่การทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ หรือทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่อันตรายค่ะ
เพราะ จะทำให้เกิดการท้องนอกมดลูกได้ค่ะ

เมื่อทราบแบบนี้แล้ว หากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ท่านควรที่จะวางแผนการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับตัวท่านเอง เพื่อป้องกันทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาอีกได้ค่ะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @unitynursingcare
Tel ????: 063-526-5593
E-mail ????: unitynursingcare@gmail.com
Website ???? : www.unitynursingcare.com